จังหวะเพลง 5 สไตล์ที่ส่งผลต่อการทำงานของคุณ

เรื่องบันเทิงอย่างการฟังเพลง มองเผิน ๆ แล้วอาจจะดูไม่ข้องเกี่ยวกับการทำงาน ใครที่ฟังเพลงในเวลางานอาจจะดูเหมือนว่ากำลังอู้งานอยู่ แต่จริง ๆ แล้วการฟังเพลงในระหว่างทำงานนั้นก็มีข้อดีที่ช่วยส่งเสริมทักษะการทำงานอยู่ด้วย

ซึ่งก็ไม่ใช่แค่การพูดลอยๆหรือใช้เป็นข้ออ้างแต่อย่างใด เพราะทาง Mindlab International ได้ลงพื้นที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของคนทำงานและฟังเพลงไปด้วย จนพบว่า 5 จังหวะดนตรี และเมโลดี้ที่แตกต่างกันมีผลดีผลเสียต่อการทำงานแตกต่างกันด้วย

1. เสียงเบสหนัก ๆ เร่งพลังและความคิดสร้างสรรค์


จากงานวิจัยในปี 2005 พบว่า เพลงที่มีเสียงเบสเป็นเสียงหลักของเพลงจะกระตุ้นให้คุณมีพลังระหว่างการทำงาน และสร้างอารมณ์ที่คึกคักโดยเฉพาะในงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ จังหวะดนตรีประเภทนี้ได้ถูกแนะนำว่าควรฟังก่อนเริ่มต้นการประชุมเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่ข้อเสียของเสียงเบสหนัก ๆ นี้ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังเสียสมาธิได้ และอาจทำให้เกิดความ ไม่รอบคอบในการทำงานเกิดขึ้น

2. เพลงบรรเลงที่มีเพียงเมโลดี้เรียบ ๆ ไม่มีเนื้อเพลงสร้างความสงบ


จังหวะดนตรีรูปแบบนี้จะช่วยให้คนทำงานมีสมาธิ เหมาะกับงานที่ทำเป็นระยะเวลานาน และไม่มีความซับซ้อน เนื่องจากจังหวะเพลงมีเพียงเมโลดี้บรรเลงท่วงทำนองด้านดนตรีเรียบ ๆ ไม่มีเนื้อร้อง ทำให้แนวดนตรีชนิดนี้จะทำให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกสงบมากขึ้น

3. ดนตรีคลาสสิคลดความตรึงเครียด

จากงานวิจัยพบว่า ดนตรีคลาสสิคนั้นจะช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ชะลอความดัน รวมถึงช่วยลดความเครียดในการทำงาน โดยงานวิจัยนี้ได้นำไปใช้กับนักเรียนพยาบาลเพื่อช่วยลดความเครียดในการทำงาน สอดคล้องกับแนวดนตรีประเภทนี้จะเหมาะกับงานที่ต้องใช้สมาธิสูงมาก รวมถึงด้านการแพทย์ที่ต้องช่วยลดความเครียดขณะปฏิบัติงานด้วย

4. เพลงบรรเลงของโมซาร์ตกระตุ้นการทำงานของสมอง


แนวดนตรีนี้จะส่งผลให้การเรียนรู้ดีขึ้น ซึ่งจากการทดลองกับกลุ่มนักเรียนหลายกลุ่ม โดยแบ่งแยกเด็กที่ได้ฟังเพลงบรรเลงของ โมซาร์ต กับอีกกลุ่มที่ไม่ได้ฟังอะไรเลย พบว่า นักเรียนกลุ่มที่ฟังเพลงบรรเลงมีผลคะแนนที่ดีกว่านักเรียนกลุ่มที่ฟังเสียงอื่น ขณะเดียวกัน การฟังเพลงชนิดนี้จะเหมาะกับการช่วยเรื่องกระบวนการคิดและความจำได้เป็นอย่างดี และถูกขนานนามว่า “เดอะ โมซาร์ต เอฟเฟ็กต์”

5. เพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้ด้วยดนตรีป็อปที่มีจังหวะดนตรีสนุก


จากการศึกษาของไมนด์แล็ป พบว่าการฟังเพลงป็อปที่มีจังหวะดนตรีสนุก จะช่วยให้คนทำงานมีการรับข้อมูลดีขึ้น 58% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฟังอะไรเลย รวมถึงการวิจัยยังพบข้อดีด้วยว่า การฟังดนตรีประเภทนี้ยังช่วยลดความผิดพลาดในแง่การสะกดคำได้ถึง 14% ด้วย

จะเห็นได้ว่า ดนตรีนั้นก็ต่างมีจุดเด่นตามแนวทางของตัวเอง และจริงที่ว่าแม้แต่ละบุคคลจะมีความชอบด้านดนตรีแตกต่างกัน แต่บางครั้งการเลือกฟังเพลงที่มีความต่างเพิ่มขึ้นก็อาจสร้างประโยชน์ทางอื่นในเรื่องการทำงานได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นคราวหากเห็นเพื่อนร่วมงานหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลง ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเขากำลังอู้งานกันนะคะ หรือถ้าคุณขาดสมาธิหรือต้องการผ่อนคลาย ลองเลือกเพลงที่ชอบมาปรับอารมณ์กันสักนิดก็ไม่เลวนะคะ

ที่มา :jobthai.com/REACH