ทำตลาดออนไลน์ อย่างไรให้เหมาะสมในช่วงไว้อาลัย

โซเชียลมีเดีย

แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเวลาของการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แต่ผู้บริโภคยังคงต้องการสินค้า และผู้ประกอบการก็ยังต้องทำธุรกิจต่อไป คำถามคือในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียแบรนด์จะต้องทำการตลาดออนไลน์ สื่อสารสินค้าและจัดกิจกรรมอย่างไรให้สะท้อนกลับมาสู่ภาพลักษณ์ที่ดี และช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ในสถานการณ์ที่เปราะบางนี้

นับเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการทั้งประเทศ ต่างร่วมกันแสดงความไว้อาลัย ด้วยการงดกิจกรรมรื่นเริง กิจกรรมส่งเสริมการขายและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าในโทนสีสุภาพ สำหรับผู้ประกอบการบนโลกออนไลน์ก็ได้มีการปรับหน้าเว็บไซต์ให้เป็นโทนสีขาว เทา และดำ รวมทั้งหยุดโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าหรือธุรกิจในหลากหลายแพลตฟอร์ม

ไม่เว้นแม้แต่สื่อสังคมออนไลน์อันดับ 1 เช่น Facebook ที่ได้ประกาศหยุดการโฆษณาในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 14-20 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัย และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการทำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เพื่อสื่อสารสินค้า นอกจากจะมีการปรับแต่งเว็บไซต์ให้อยู่ในโทนสีดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ประกอบการออนไลน์ 2 กลุ่มคือธุรกิจที่เป็นที่ต้องการในช่วงเวลานี้และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ยังสามารถสื่อสารสินค้าและทำกิจกรรมการตลาดออนไลน์อย่างเหมาะสมกับช่วงเวลาได้

โดยกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่เป็นที่ต้องการซื้อของผู้บริโภคในช่วงเวลานี้ เช่น ธุรกิจเสื้อผ้า ท่านสามารถนำเสื้อผ้าสีดำ หรือสีสุภาพมาจัดวางที่หน้าแรกของเว็บไซต์ หรือโพสต์บนหน้าเพจ เพื่อให้ลูกค้าพบเห็นได้ง่าย รวมถึงอาจแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับการแต่งกายที่ถูกกาละเทศะในลักษณะที่ไม่ส่งเสริมการขายสินค้ามากจนเกินไปไว้ในเว็บไซต์ หรือบนเฟซบุ๊คเพจของแบรนด์

นอกจากนั้น ธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าในขณะนี้ สามารถทำโฆษณาในรูปแบบ Search เพื่อให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์ของท่านเจอได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น จากสถิติของ Google Keyword Planner พบว่า เดือนกันยายน มีการค้นหาคำว่า “เสื้อยืดสีดำ” 1,300 ครั้งต่อเดือนหรือ 43 ครั้งต่อวัน และพบจาก Google Trends ว่า การค้นหาคำว่า “เสื้อยืดสีดำ” บน Google เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20 เท่า หลังจากวันที่ 13 ตุลาคม

ดังนั้น หากธุรกิจของท่านคือร้านขายเสื้อยืดออนไลน์ จากเดิมที่ใช้คำค้นหา (Keyword) คำว่า “เสื้อผ้าแฟชั่น” อาจปรับคีย์เวิร์ดเป็น “เสื้อยืดสีดำราคาส่ง” “เสื้อยืดสีดำ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สนใจซื้อให้สามารถพบท่านได้ง่ายขึ้น ส่วนธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจหนังสือออนไลน์ อาจใช้คีย์เวิร์ด “หนังสือพระราชนิพนธ์” “หนังสือในหลวง” หรือหากท่านทำธุรกิจร้านดอกไม้ อาจเลือกใช้คีย์เวิร์ด “รับจัดซุ้มดอกไม้ถวายความอาลัย” เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อพบท่านได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่อาจไม่ได้มีสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง วิธีการสื่อสารสินค้าหรือแบรนด์อาจไม่ใช่ในลักษณะของการขายสินค้าโดยตรง แต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ในใจของผู้บริโภคแทน เช่น ร่วมมือกับภาครัฐในการช่วยเหลือกิจกรรมสังคมที่เป็นประโยชน์ ด้วยการเข้าร่วมกระทรวงการท่องเที่ยวในการสนับสนุนให้เกิดการเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการพระราชดำริ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศอีกด้วย

บุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์ในช่วงนี้ เป็นบรรยากาศของการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แต่ผู้บริโภคเองก็ยังคงมีความต้องการในสินค้าหรือบริการ เพื่อเป็นการดำเนินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ “พ่อ” ได้วางเอาไว้ แบรนด์จึงควรดำเนินการทางการตลาดต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการสินค้า และทำแคมเปญโฆษณาตามความเหมาะสม แสดงความมีส่วนร่วมในการทำความดี และสื่อสารแบรนด์ไปในแนวทางที่สมควร”