หล่อเต็มขั้นกับ BMW 525d M Sport

การปรับเปลี่ยนซีรีส์ 5 ให้มีความแรงมากขึ้น ทำให้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

โครงสร้างตัวถังภายนอก ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก แต่การที่ได้โลโก้ M ติดด้านข้างถือว่า โก้สุดๆ แล้ว สำหรับผมแล้วเคยผ่านซีรีส์ 5 เครื่องยนต์ดีเซลมาแล้ว แต่ครั้งนั้นความแรงแค่ 204 แรงม้า

มาครั้งนี้กับรุ่นปรับโฉม ถูกเพิ่มจำนวนม้ามากขึ้น เป็น 218 แรงม้า ที่ 4,400 รอบต่อนาที ที่ 4,400 รอบต่อนาที และให้แรงบิดมหาศาลที่ 450 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำ

แม้ซีซีน้อยลงแต่เมื่อเทียบกันแล้ว สมรรถนะโดยรวมของเครื่องยนต์ 4 สูบกลับดีกว่า และระบุอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยไว้สูงถึง 21.3 กิโลเมตรต่อลิตร

BMW 525d M Sport โฉมปี 2014 เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในประเทศไทย ในราคารถ 3.999 ล้านบาท แม้จะแพงกว่ารุ่นเริ่มต้น 520d และ 525d Luxury แต่สิ่งที่ได้มากับเงินที่จ่ายมากกว่านิดหน่อย ตัวเลือกนี้ลงตัวที่สุด

ตั้งแต่รูปร่างหน้าตา มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น เน้นความดุดันในภาพรวมด้วยการเพิ่มสีสันที่ตัดกันในตำแหน่งต่างๆ เช่น ที่กรอบโคมไฟตัดหมอกหน้าและกันชนหลังด้านล่างที่เป็นสีดำ ขณะที่โครงสร้างตัวถังภายนอกไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก

กรอบโคมไฟหน้าและท้ายปรับปรุงเล็กน้อย เพื่อให้มีมิติของกรอบโคมไฟมากขึ้น พร้อมเสริมความดุเดือดด้วยล้อแมกซ์ลาย 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งทำให้ตัวรถในภาพรวมดูดุขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเมื่อมารวมกับภาพรวมของชุดแต่งทั้งหมดแล้ว ก็ทำให้รถดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อยามอยู่บนท้องถนน

ที่กล่าวมาเบื้องต้น อาจเป็นฟังก์ชันเรียกน้ำย่อย หากคุณต้องการเป็นเจ้าของ BMW 525d ที่มาพร้อมกับชุดแต่ง M Sport คุณยังจะได้ตัวช่วยอื่นๆ มากมาย ทั้งสาระบันเทิงและความสนุกทุกวันด้วยระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ทั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 10.2 นิ้ว ปุ่มควบคุมฟังก์ชันอัจฉริยะพร้อมระบบสัมผัส iDrive และระบบเสียงไฮไฟและลำโพง 12 ตัว, ระบบแผนที่นำทาง 3 มิติ, ไฟหน้าแบบ LED ปรับตามทิศทางการเลี้ยวของพวงมาลัย
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ, เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝนและเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และกล้องมองหลังแสดงระยะถอยจอด รวมถึงระบบปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก

ทั้งหมดที่บอกมา คือ ฟีเจอร์ใหม่ที่อัดแน่นอยู่ใน BMW 525d M Sport และหากรวมกับชุดแต่งล้อ M 18 นิ้ว (Run-flat) และระบบ Integral ActiveSteering กับค่าตัวที่จ่ายเพิ่มเป็น 3.99 ล้านบาท

บางทีการตัดสินใจครั้งนี้ อาจทำให้หลายคนต้องร้อง wow เมื่อแรกเห็นและถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวหากต้องการความคลาสสิกในแบบฉบับ BMW ชุดแต่ง M Sport ผมว่าในราคาที่จับต้องได้ขนาดนี้ น้อยคนนักที่จะมองผ่านเลยไป

นอกเหนือจากสมรรถนะที่ดี ที่คุณสามารถเค้นความแรงได้จากเครื่องยนต์ 218 แรงม้า จากชุดเกียร์อัตโนมัติ 8HP 8 สปีดแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร หรือหากคุณต้องการความเร่งรีบในบางครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางขับยาวๆ โล่งๆ คุณจะพบว่า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 6.9 วินาที

นอกจากนี้ สิ่งที่ผมพยายามค้นหาตัวตนของ BMW 525d M Sport มากกว่าหน้าตาที่หล่อเหลา จนได้เจอกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ระบบ Integral Active Steering ช่วยกำหนดการบังคับเลี้ยวให้แม่นยำ และกระชับวงเลี้ยวได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงจุดขายใหม่ที่กล่าวมาในตอนต้น

วันทำงานคุณอาจขับรถยนต์คันนี้ไปทำงาน ซึ่งแน่นอนมันจะเฉิดฉายบนท้องถนน เป็นดาวเด่นให้ถูกจับจ้อง จากสายตาหลายร้อยคู่ ในทางกลับกัน หากคุณต้องโจนทะยานไปพักผ่อน เพื่อผ่อนคลายชีวิตบ้างในวันหยุด

ฟังก์ชันระบบ Driving Experience Control คุณสามารถเลือกโหมดในการขับขี่ได้ทั้งแบบ Eco Pro, Comfort, Sport และ Sport + ซึ่งโหมดนี้ก็คล้ายๆ กับรถรุ่นอื่นๆ ของ BMW

แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การที่คุณสามารรถคอนโทรล หรือลองขับให้ครบทุกฟังก์ชัน คุณอาจค้นพบอะไรบางอย่าง

ใครที่ต้องการความแรงมากๆ โหมด Sport และ Sport + น่าจะเหมาะสมที่สุด แต่คุณต้องควบคุมให้ได้ด้วยเช่นกัน สำหรับโหมด Eco Pro และ Comfort น่าจะเป็นอะไรที่เรียบง่าย สบาย ไม่เร่งรีบ

แต่อย่างว่า ชุดแต่ง M Sport ครบชุด คงไม่ใครมาเหนียมอายกัน ซึ่งหากมองถึงพละกำลังที่ BMW ให้มา ถือว่าค่อนข้างดีมาก

อย่างที่ผมบอกไว้ รถยนต์ทั้ง 2 คันนี้ มีดีมากกว่าหน้าตา!!!

วิทยา กิจชาญไพบูลย์