สแกนอาเชียน37% พร้อมซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไป แม้ความเข้าใจและความเชื่อใจจะยังไม่นิ่ง

“รถยนต์ไฟฟ้า ทางเลือกเพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ”  วลีคลาสสิคที่ทำให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ที่เริ่มแสวงหา

ท่ามกลางการตื่นตัวของการเตรียมพร้อมต้อนรับรถไฟฟ้าของทั่วโลก หนึ่งในโซนที่มีความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่เซอร์ไพรซ์เล็กน้อย คือ อาเซียน โดย 1 ใน 3 ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความพร้อมและสนใจซื้อ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคที่จะเร่งให้เกิดยานยนต์ไฟฟ้าเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เคยผลสำรวจอนาคตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบว่า “ร้อยละ 37” ของผู้ที่กำลังจะซื้อรถยนต์มีความสนใจที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicles-EVs) เป็นคันต่อไป โดยลูกค้าในฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย คือกลุ่มที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด ดังนี้

ฟิลิปปินส์ 46%
รองลงมา ประเทศไทย 44%
อินโดนีเซีย 41%
มาเลเซีย 37%
เวียดนาม 33%
สิงคโปร์ 23%

แล้วคิดว่าอะไรคือปัจจัยที่จะทำให้คนอยากซื้อ

ได้รับการยกเว้นภาษี 75%
ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในที่อยู่อาศัย 70%
มีช่องขับขี่เฉพาะ 56%
ไม่เสียค่าที่จอดรถ 53%
ได้รับส่วนลด 53%

แม้จะมีความต้องการซื้อ แต่อย่าลืมว่านี่ก็ยังเป็นเรื่องที่ใหม่พอดู แล้วคุณคิดว่าความเข้าใจต่อเทคโนโลยี EVS ของคนอาเชียนเป็นอย่างไร

จากข้อมูลข้างต้น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูจะมีความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูง โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย แต่ยังมีอุปสรรคหลายด้าน อาทิ การขาดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ความกังวลใจเรื่องแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักของการตัดสินใจซื้อ เช่นเดียวกับที่ลูกค้ายังไม่เชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

อย่างไรเสีย การผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ของผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายใหญ่ รวมถึงรายย่อย ก็ยังคงพยายามพัฒนาโปรดักต์อกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะยังไงซะยานยนต์พลังงานทดแทนเหล่านี้ ก็คืออนาคต และพร้อมจะเปลี่ยนถ่ายได้แบบรวดเร็ว หากไทม์มิ่งเหมาะสม ซึ่งถ้าเทียบไปแล้วก็เหมือนกับยุคหน้าจอ CRT ที่เปลี่ยนมาเป็น LCD/LED ที่เปลี่ยนปุ๊บตลาด CRT หายไปเลย เพียงแต่ตอนนี้เครื่องยนต์และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับพลังงานฟอสซิลยังคงมีบทบาทอยู่ และยังเปลี่ยนถ่ายไม่ได้เร็วใน 1-2ปีนี้

ความรู้เรื่องรถยนต์ Evs

สิงคโปร์ 87%
อินโดนีเซีย 86%
เวียดนาม 84%
ฟิลิปปินส์ 83%
ไทย 83%
มาเลเซีย 79%

ความเข้าใจต่อเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก

แบตเตอรี่ Evs (BEVs) 83%
Plug-in Hybrid 35%
Full Hybrid 31%
Pararell Hybrid 25%

พอพูดถึงเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า ก็อยากพาแวะไปงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2018 หรือ ASE2018 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงาน การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและยานยนต์ไฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดต่อเนื่องมานานกว่า 20 ปี

ในงานแสดงนี้ประกอบด้วยงานย่อยๆ เช่นRenewable Energy Asia, Energy Efficiency Asia, Entech Pollutech Asia, Electric Vehicles Asia, iEVTech, Boilex Asia และ Pumps & Valves Asia 2018 มีผู้ร่วมงานกว่า 45 ประเทศ นับพันแบรนด์จัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์

ฮอนด้าเป็นส่วนหนึ่งใน iEVTech 2018 (The International Electrical Vehicle Technology Conference and Exhibition 2018) ที่ปีนี้ดูจะมาเด่นแบบเดี่ยวๆ และพยายามจะประกาศให้เห็นภาพว่าฮอนด้าพร้อมเปลี่ยนมาสู่ยุคพลังงานทดแทนได้ทันที

ฮอนด้าเอาอะไรมาโชว์?

แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยนได้ ชนิด ลิเธียม-ไอออน “ฮอนด้า โมบายล์ พาวเวอร์แพ็ค”(Honda Mobile Power Pack) สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กของฮอนด้า

ตู้ชาร์จไฟต้นแบบ “ฮอนด้า โมบายล์ พาวเวอร์แพ็ค เอ็กซ์เชนจ์เจอร์ คอนเซปต์”(Honda Mobile Power Pack Exchanger Concept) ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ ฮอนด้า โมบายล์ พาวเวอร์แพ็ค ได้หลายก้อนพร้อมกัน สะดวกในการสับเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ให้กับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กได้ทันที

เครื่องชาร์จไฟแบบพกพาต้นแบบ “ฮอนด้า โมบายล์ พาวเวอร์แพ็ค ชาร์จ แอนด์ ซัพพลายด์ – พอร์เทเบิ้ล คอนเซปต์” (Honda Mobile Power Pack Charge & Supply – Portable Concept) มีขนาดเล็กเหมาะกับการใช้งานชาร์จแบตเตอร์รี่ ฮอนด้า โมบายล์ พาวเวอร์แพ็ค นอกสถานที่

นอกจากนี้สำหรับสาวกสองล้อที่อยากจะลองใช้งานเครื่องยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ก็ถือเป็นข่าวดี เพราะโมเดล พีซีเอ็กซ์ อิเล็กทริก (PCX Electric) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่น่าจะวางจำหน่ายในเมืองไทยช่วงปลายปีนี้

ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์รุ่นไหน ราคาแพงเท่าใด เชื่อว่าคนไทยน่าจะพร้อมที่จะอุดหนุน แต่คำถาม คือ ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะมีความกังวลด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการชาร์จไฟหรือเปล่า? นี่คือคำถามที่น่าจะทำให้ความอยากเสี่ยงลดลง ซึ่งหากภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐบาลสามารถขจัดอุปสรรคเหล่านี้ลงได้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะบูมเร็วในช่วงเวลาไปเกิน 5 ปีนี้เป็นแน่