หนึ่งวันสำหรับมนุษย์อย่างเรา ส่วนใหญ่มักจะหมดไปกับการทำงาน จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำงานที่ใช่ พร้อมกับเงินเดือนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้นั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน มาดูกันดีกว่าว่าในภาวะเศรษฐกิจไทยซึ่งกำลังฟื้นตัว สายงานไหน จ่ายเงินเดือนในฝัน ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2561 เงินเดือนเฉลี่ยของคนไทยนั้น เท่ากับ 228,412 บาทต่อปี หรือ ประมาณ 19,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถจำแนกอุตสาหกรรมที่จ่ายค่าจ้าง เรียงจากมากไปน้อย ตามตัวเลขสถิติ ดังนี้
อุตสาหกรรม | ค่าจ้าง (บาท/เดือน) |
องค์การระหว่างประเทศ | 26,600 |
วิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค | 24,600 |
การเงินและการประกันภัย | 23,600 |
การบริหารราชการ การป้องกันประเทศฯ | 18,000 |
ขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า | 17,400 |
อสังหาริมทรัพย์ | 16,600 |
การผลิต | 12,900 |
ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ | 11,800 |
โรงแรม และการบริการด้านอาหาร | 11,200 |
ก่อสร้าง | 10,100 |
เกษตรกร | 5,700 |
ส่องเทรนด์ค่าจ้าง ปี 2554 – 2560
จากตัวเลขดังกล่าว หากเราทำงานอยู่องค์การระหว่างประเทศ ซึ่งจ่ายค่าจ้างเฉลี่ย เท่ากับ 26,600 บาทต่อเดือน โดยได้รับค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดในปี 2560 สูงถึง 55,000 บาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับสายงานอื่น แต่ก็แลกมากับความผันผวนของค่าจ้างที่ผกผันอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงต่ออนาคตได้ในเวลาต่อมา รองลงมา คือ สายวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และเทคนิค การเงินและการประกันภัย ตามลำดับ สำหรับสายงานที่ได้รับค่าจ้างน้อยที่สุด คือ ภาคเกษตรกรรม
IMPACT
- สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยยังคงไม่หลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง สืบเนื่องจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั้งค่าที่พัก และค่าเดินทาง น่าจะเกือบ 2 ใน 3 ของค่าจ้างในบางสายงาน ประกอบกับไม่สามารถตอบสนองปัจจัยสี่ได้เท่าที่ควร
- การเติบโตของเศรษฐกิจไทยอาจยังไม่สะท้อนความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะยังไม่สามารถกระจายรายได้ทุกภาคส่วนอย่างเสมอภาค
- สุดท้ายนี้ อาจเป็นแนวทางในการเลือกสายงานในอนาคต หรือแม้กระทั่งการเลือกสายเรียนเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงินในอนาคต
ดังนั้น หาก ‘โอกาสทางสังคม’ มีให้แก่ทุกคน จะเป็นหนทางที่ทำให้มีวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของเรานั้นดีขึ้น ทั้งการเข้าถึงการศึกษา ช่องทางการสร้างรายได้ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือแม้กระทั่งการทานอาหารครบ 3 มื้อในทุก ๆ วัน ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม เพื่อรากฐานของเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต