ผิวพรรณเหี่ยว เกิดริ้วรอยเพราะมลภาวะ สารสีแดงช่วยได้

มลภาวะรอบตัว..ภัยร้ายสร้างอนุมูลอิสระ ทำลายถึงระดับเซลล์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) สารสีแดงช่วยได้

พญ. ธิศรา วีรสมัย หัวหน้าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท1 กล่าวว่า สังคมปัจจุบันผู้คนใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านกว่า 80% ทำให้ต้องพบเจอกับมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่นละอองมลภาวะในอากาศ รวมถึงสารปนเปื้อนต่างๆ โดยเฉพาะในอาหาร บางครั้งร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านออกมาในรูปแบบไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก

 

แต่หากค่อยๆ สะสมในร่างกายจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระ และสารตัวนี้จะทำให้เซลล์เสื่อม ทำลายทั้งโปรตีน ไขมัน และดีเอ็นเอที่อยู่ในร่างกาย เกิดขบวนการอักเสบระดับเซลล์ นำมาซึ่งความเสื่อมสภาพส่งผลต่อภูมิคุ้มกันร่างกาย เมื่อเซลล์ร่างกายอ่อนแอจะง่ายต่อการติดเชื้อและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้มากขึ้น

 

โดยเฉพาะแสงแดดจัดเป็นมลภาวะชนิดหนึ่งที่หลีกเลี่ยงได้ค่อนข้างยาก รังสี UVA และUVB จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระเช่นกัน ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความเสื่อมสภาพ ผิวพรรณเหี่ยว เกิดริ้วรอย และทำลายการทำงานของคอลลาเจน รวมถึงอาการเยื่อบุตาอักเสบ ต้อเนื้อและต้อกระจกอีกด้วย

ในขณะนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบต่างๆมากมาย หนึ่งในนั้นคือแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารสีแดงที่พบในปลาแซลมอน กุ้งตัวเล็ก และพบในปริมาณมากคือสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูเวียลิส เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง

เนื่องจากสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและไขมัน จึงเข้าไปในผนังเซลล์และเซลล์ได้ดี ทำให้ช่วยต่อต้านขบวนการอักเสบ ความเสื่อมเซลล์และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ ทั้งนี้หากได้รับประทานร่วมกับสารฟอสฟาติดิลโคลีนซึ่งพบได้ในเลซิติน จะช่วยการดูดซึมและคงตัวของแอสตาแซนธิน รักษาสมดุลระดับไขมันในเลือด ลดระดับไขมันไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) มีส่วนช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

 

รวมถึงยังลดการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ ต้านขบวนการอักเสบระดับเซลล์ ลดการปวดอักเสบของข้อและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานแอสตาแซนธินต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยหมองคล้ำ ต้านการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวเนียมนุ่มและกระชับ เพราะแอสตาแซนธิน ยังช่วยปกป้องคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้อีกด้วย