กลิ่นบำบัด ขจัดความเครียด

กลิ่นหอมเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สามารถครอบงำอารมณ์ความรู้สึกและจิตใจมนุษย์เรา โดยเฉพาะในเรื่องของการผ่อนคลายความเครียด กลิ่นแต่ละกลิ่นก็ส่งผลต่ออารมณ์ต่างกันไป

เมื่อมนุษย์สัมผัสกับกลิ่นด้วยการสูดไอระเหย โมเลกุลของกลิ่นหอมจะถูกส่งผ่านไปยังสมองส่วนที่เรียกว่า ลิมบิกซิสเต็ม (Limbic System) ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการเรียนรู้ ความจำ อารมณ์ ความหิว และอารมณ์ทางเพศ ทำให้สมองปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) เอนเซปฟาลีน (Encephaline) และเซโรโทนิน (Serotonin) ออกมา
เอ็นดอร์ฟินจะช่วยลดความเจ็บปวด เอนเซปฟาลีนจะส่งเสริมให้มีอารมณ์ดี และเซโรโทนินจะช่วยให้สงบเยือกเย็นและผ่อนคลาย ดังนั้นอโรมาเธอราปีจึงถูกนำมาใช้ในการคลายความเครียด เหนื่อยล้า และโรคนอนไม่หลับได้ กลิ่นต่าง ๆ มักจะนิยมใช้ในสปา สำหรับนวดตัว หรือจุดให้หอมระเหยสร้างบรรยากาศที่พบได้บ่อย ๆ เช่น

กลิ่นกุหลาบ
กลิ่นลาเวนเดอร์, มาร์จอแรม, คาโมไมล์ และดอกส้ม จะช่วยทำให้ง่วง นอนหลับสบาย จึงนำมาใช้บำบัดอาการเครียด นอนไม่หลับ โกรธ กังวล รำคาญ และความดันโลหิตสูง ทำให้ร่างกายผลิตเซโรโทนิน ทำให้ใจสงบ

กลิ่นกุหลาบ และคลารี่ เสจ ไปกระตุ้นทาลามัส และการผลิตเอนเซปฟาลีน ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียด
กลิ่นเปปเปอร์มินต์ และโรสแมรี ช่วยกระตุ้นการผลิตอะดรีนาลีน ทำให้มีพลังงานมากขึ้น จิตใจเบิกบาน และลดการเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ

กลิ่นเจอราเนียม จะช่วยปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายให้เข้าสู่สมดุล ซึ่งจะทำให้จิตใจเป็นปกติ จึงมีประโยชน์กับสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มักจะมีอารมณ์ปรวนแปร หดหู่ เศร้าหมอง

ยูคาลิปตัส และคาเจพุทธรักษา สามารถใช้หยดบนผ้า สำลี หรือในอ่างน้ำร้อน แล้วสูดดมไอ แก้อาการหวัดหรือแพ้อากาศ จึงพบเสมอในยาดมที่ใช้กันแพร่หลาย ซึ่งบางชนิดเหมาะสำหรับการทาผิวเพื่อบำรุงผิวพรรณ เช่น ทีทรี, ลาเวนเดอร์, เทอเมอริค จึงนิยมนำมาผสมกับครีมหรือเจลสำหรับอาบน้ำ

นำ้มันดอกโหรพา

สำหรับน้ำมันหอมจากพืชพรรณไม้ของไทยก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เช่น

น้ำมันตะไคร้หอม ใช้ทาผิวเพื่อกันยุง สามารถทำเป็นสเปรย์พ่นด้วยการนำมาผสมกับน้ำบริสุทธิ์
น้ำมันดอกโหระพา ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ไล่แมลง บรรเทาอาการปวดต่าง ๆ รวมทั้งโรคเกาต์ และยังช่วยลดอาการเครียด กระวนกระวาย ทำให้อารมณ์สดชื่นขึ้นจากความเหนื่อยล้า ต้องระวังเวลาใช้ เพราะอาจระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่าย
น้ำมันขิง และน้ำมันพริกไทยดำ ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและรูมาติซั่ม โดยทำเป็นน้ำมันนวดประคบ นอกจากนี้ยังบรรเทาอาการเครียด กระวนกระวาย เหนื่อยล้า และทำให้เกิดอาการตื่นตัว อบอุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันขิงต้องระวังให้ใช้ขนาดน้อย ๆ เพราะอาจระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่าย และห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์

น้ำมันจันทน์ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังที่แห้ง และผมที่เสีย นอกจากนี้ยังช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย สงบ สร้างความสดชื่นให้กับจิตใจที่กำลังหดหู่ และช่วยทำให้นอนหลับสบาย แต่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์

น้ำมันกระดังงาไทย ช่วยเสริมการงอกงามของเส้นผม บำบัดอาการจากแมลงกัดต่อย และใช้กับสิว ป้องกันการติดเชื้อและการกระจายตัวของเชื้อโรค ใช้กับผิวหนังได้ทุกชนิด ในทางจิตใจ ช่วยบรรเทาอาการจิตใจหดหู่ เครียด และอาการนอนไม่หลับ รวมถึงอาการโกรธ กระวนกระวายใจ ทำให้สดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น การใช้ต้องระวังไม่ใช้ในขนาดเข้มข้นกับคนที่ป่วยเป็นความดันโลหิตสูง เพราะจะทำให้คลื่นไส้และปวดศีรษะได้

น้ำมันดอกมะลิ ช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลาย ตื่นตัว ไม่หดหู่เศร้าหมอง

น้ำมันมะกรูด ช่วยป้องกันการติดเชื้อ บำบัดอาการผื่นแดงของผิวหนัง และยังช่วยให้จิตใจสงบ สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี และหลับสบาย

เปเปอร์มิ้นท์

กลิ่นบำบัดตามกรุ๊ปเลือด

การเลือกใช้กลิ่นที่เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือดจะส่งผลต่อระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูสุขภาพกาย ใจ และช่วยเสริมสร้างแอนติบอดี ภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี
กลิ่นเหมาะกับคนกรุ๊ป O เน้นไปที่กลิ่นใกล้เคียงกับพืชบนดินเป็นหลัก เช่น กลิ่นของต้นไทม์, ราสเบอร์รี, ซีดาร์วูด, แฟรงคินเซนส์, เปปเปอร์มินต์ และกำยานไทย
กลิ่นที่เหมาะกับคนกรุ๊ป A กลิ่นเลือดของคนกรุ๊ป A จะมีกลิ่นธรรมชาติของสีเขียวคล้ายกับกลิ่นสดชื่นของสมุนไพร กลิ่นที่เหมาะก็คือกลิ่นของต้นไม้ในสวน, ชาเขียว, ใบมะเขือเทศ, ใบโหระพา และยี่หร่า

กลิ่นที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ป B กลิ่นธรรมชาติของคนกรุ๊ปนี้จะเป็นธาตุไม้ กลิ่นที่เหมาะคือ กลิ่นร้อนแรงของเนื้อไม้, กลิ่นเผ็ดร้อนของขิง, เปปเปอร์มินต์, โสม, ชาเขียว, ชาดำ, แอปเปิ้ลแดง, เชอร์รีดำ, ทับทิม, พริกไทย, พิมเสน และไม้สัก

กลิ่นบำบัดที่เหมาะกับคนกรุ๊ป AB จะมีกลิ่นที่เป็นส่วนประกอบของแร่หลากหลายชนิดมารวมกัน เช่น แอลดีไฮด์, อะลูมิเนียม, หินชนวน, ก้อนกรวด และน้ำ

%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%88